เที่ยวลาว 3 วัน 2 คืน กับโปรแกรมท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านที่คนไทยได้รับการยกเว้นวีซ่า สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน โดยจะต้องมีใบรับรองฉีดวัคซีน Covid-19 ครบโดส สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวลาวก็มีหลากหลาย ที่พักจะอยู่ที่ ราคา 100 - 1000 บาท ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน ธรรมชาติ หรือวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ จึงเป็นหนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยที่หลายคนสนใจ แต่บางคนก็ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวลาวที่ไหนดี วันนี้เราเลยหยิบเอาโปรแกรมเที่ยวลาว 3 วัน 2 คืน มาแนะนำกัน เริ่มที่
วันที่ 1 ตะลุยเที่ยวเวียงจันทน์ ไหว้พระขอพรเสริมมงคล

ไปเยือนเมืองหลวงของลาวทั้งทีไม่ควรพลาดไปสักการะ พระธาตุหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยพระธาตุสีเหลืองทองอร่าม มีรูปทรงคล้ายกับดอกบัวตูม มีความสูง 45 เมตร รายล้อมด้วยพระธาตุองค์เล็กโดยรอบอีก 30 องค์ ภายในประดิษฐานพระอุรังธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามตำนานอุรังคนิทานได้กล่าวไว้ว่า สร้างขึ้นคราวเดียวกับการสร้างเมืองนครเวียงจันทน์ โดยโครงสร้างปัจจุบันถูกสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าอภัยพุทธบวร ไชยเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ. 2109 และมีได้มีการบูรณะโดยชาวฝรั่งเศสในช่วงหลัง เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต้องแต่งกายสุภาพก่อนเข้าเยี่ยมชม

จากนั้นแวะไปชื่นชมความงามของสัญลักษณ์เวียงจันทน์อย่าง ประตูไซ (ประตูชัย) แลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่บริเวณท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง
ก่อสร้างเมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงวีรชนผู้ร่วมรบในการประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส โดยได้แรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมจาก Arc de Triomphe ประตูชัยแห่งปารีส มีการตกแต่งด้วยรูปปั้นของกินรีและสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ โดยรอบของประตูชัยถูกตกแต่งด้วยสวนสวย ด้านบนเดินขึ้นไปชมวิวเมืองในมุมสูงได้ ส่วนด้านหน้าเป็นลานน้ำพุกับสวนกว้าง

ถัดมาไม่ไกลไปชมความงดงามของ วัดสีสะเกด ตั้งอยู่บนถนนล้านช้างเช่นเดียวกัน เป็นวัดโบราณเพียงแห่งเดียวที่ยังสมบูรณ์หลังจากการรบกับไทยในช่วงปี พ.ศ. 2371 ซึ่งมีการสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2361 โดยสมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ สิ่งที่โดดเด่นของวัดก็คือโบสถ์เก่าแก่ที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยและลาว มีหลังคาเป็นไม้สวยงาม

ก่อนจะไป วัดศรีเมือง ที่ตั้งอยู่บนถนนเชษฐาธิราช ห่างจากวัดสีสะเกดประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 1563 เป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามเช่นกัน และยังเป็นที่ตั้งของศาลเสาหลักเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเวียงจันทน์ สิ่งที่น่าสนใจก็คือพระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมไทย-ลาว สวยงามโอ่อ่า

จากนั้นไป วัดองค์ตื้อมหาวิหาร วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ถนนไชยเชษฐาธิราช สถานที่ประดิษฐาน “พระเจ้าองค์ตื้อ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ศิลปะล้านช้าง หล่อด้วยสำริด หน้าตักกว้าง 3 เมตร 40 เซนติเมตร ความสูง 5 เมตร 100 เซนติเมตร สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 1000 เพื่อเสริมสิริมงคลกันสักหน่อย

และปิดท้ายวันแรกกันที่ Vientiane Night Market ตลาดกลางคืนริมโขง เดินชิม เดินช้อป เดินชิล ๆ มีทั้งของกิน เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ งานหัตถกรรม และสินค้าพื้นเมืองให้เลือกมากมาย ราคาย่อมเยา สามารถต่อรองกันได้ ที่นี่จะเปิดช่วงเย็น ๆ ถึงประมาณ 4 ทุ่ม
วันที่ 2 เยือนวังเวียง สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ

เช้าวันที่ 2 มุ่งหน้าไป วังเวียง เมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำซอง อยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เนื่องจากถนนค่อนข้างเล็ก ส่วนมากเป็นเลนสวนกัน บางช่วงเป็นทางโค้งและเป็นถนนลูกรัง ทำให้ไม่สามารถขับด้วยความเร็วได้ หากมีเวลาเพียงไม่กี่วันแนะนำให้ใช้บริการรถไฟสายจีน-สปป.ลาว เพราะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาทีเท่านั้น

สำหรับวังเวียงมีสภาพภูมิประเทศที่โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูน ตั้งตระหง่านเรียงรายเป็นแนวยาว มีแม่น้ำไหลผ่าน ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์ อากาศดี และบรรยากาศเงียบสงบ ที่นี่เป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ หรือคนที่ชอบกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ ที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย เช่น เดินทางไกลชมป่าไม้ ปีนเขา ชมถ้ำ หรือล่องห่วงยางเล่นบนแม่น้ำซอง ฯลฯ แต่หากมีเวลา 1 วัน 1 คืน ไม่ควรพลาดไปเช็กอิน บลู ลากูน สระน้ำสีฟ้าใสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของถ้ำภูคำ ลักษณะของน้ำในสระจะเป็นสีฟ้าใส สามารถลงไปว่ายน้ำเล่นได้ ด้านข้างสระจะมีต้นไม้ใหญ่ มีเชือกให้ไต่ปีนเพื่อกระโดดน้ำเล่น พร้อมทั้งยังมีบริการให้เช่าห่วงยางและจำหน่ายอาหารอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

ไป พายเรือคายักในลำน้ำซอง กิจกรรมสุดชิลที่นักท่องเที่ยวสามารถพายได้ เพราะกระแสน้ำไหลไม่แรงมากนัก พายได้ง่าย ๆ ชมวิวของสองข้างแม่น้ำไปเรื่อย ๆ จะเห็นทิวทัศน์ของภูเขาหินปูนสูงใหญ่สีเขียว การหาปลาในลำน้ำแบบพื้นเมืองของชาวบ้าน เด็ก ๆ กระโดดเล่นน้ำกัน

ถ่ายรูปสุดชิคกับ สะพานส้ม สะพานแขวนทอดข้ามผ่านลำน้ำซอง ทำขึ้นจากเหล็ก ใช้เป็นทางข้ามไปยังถ้ำจัง สามารถเดินเที่ยวชมบนสะพาน พร้อมทั้งเก็บภาพความประทับใจคู่กับสะพานส้มและลำน้ำซองได้ชิล ๆ
วันที่ 3 กลับเวียงจันทน์ แวะเดินตลาดเช้าวังเวียง

วันที่ 3 ตื่นเช้าสักนิดเพื่อไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาววังเวียงกันที่ ตลาดเช้า เพราะมีอาหารพื้นเมืองแท้ ๆ ให้ได้ลิ้มลองกัน บรรยากาศของตลาดจะเงียบสงบ มีภูเขาหินปูนเป็นฉากยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง
จากนั้นนั่งรถกลับมายังนครหลวงเวียงจันทน์ และเดินทางกลับประเทศไทย

การเดินทาง : จากไทยสามารถเดินทางไปเยือนเวียงจันทน์ได้หลายวิธี
-
เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ที่มีหลายสายการบิน เช่น การบินไทย ไทยสมายล์ แอร์เอเชีย และลาวแอร์ไลน์ เป็นต้น
-
รถทัวร์ : ทางบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้เปิดบริการเดินรถระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว เช่น
- หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้รถมาตรฐาน 2 ปรับอากาศ เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ระยะทาง 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
- อุดรธานี-นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้รถมาตรฐาน 2 ปรับอากาศ เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ระยะทาง 77 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- อุดรธานี-หนองคาย-วังเวียง ใช้รถมาตรฐาน 2 ปรับอากาศ เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ระยะทาง 233 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
- ขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้รถมาตรฐาน 2 ปรับอากาศ เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ระยะทาง 194 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
- กรุงเทพฯ-นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้รถมาตรฐาน 4 (ก) ปรับอากาศ เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ระยะทาง 648 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จากนครหลวงเวียงจันทน์สามารถใช้บริการรถไฟสายจีน-สปป.ลาว ไปยังวังเวียงได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที


นครหลวงเวียงจันทน์ – วัดศรีเมือง – ชมหอพระแก้ว – พระธาตุหลวง – ประตูชัย – วังเวียง – ล่องเรือชมแม่น้ำซอง - ขึ้นรถไฟความเร็วสูงสู่หลวงลวงพระบาง – พระราชวังเก่าหลวงพระบาง – วัดใหม่สุวรรณภูมาราม – วัดวิชุน – วัดเชียงทอง – วัดพระธาตุพูสี
นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่หลวงพระบาง - ชมเมืองมรดกโลก หลวงพระบาง - ชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว - ชมอนุสาวรีย์ประตูชัย ชมพระราชวังเก่า - ชมวัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่พระธาตุภูษี - สักการะวัดพระธาตุหลวง วัดสีเมือง - ช้อปปิ้ง ณ ตลาดมืด - ทำบุญ ใส่บาตรข้าวเหนียว - เพลิดเพลินกับกิจกรรม ล่องเรือคายัค แม่น้ำซอง

นั่งรถไฟความเร็วสูง เที่ยวเมืองมรดกโลก หลวงพระบาง น้ำตกตาดกวางสี พระราชวังหลวงพระบาง วัดวิชุลราช พระธาตุพูสี ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว พร้อมค้างคืนที่หลวงพระบาง 1 คืน ช็อปปิ้ง ตลาดมืด วังเวียง บลูลากูล ถ้ำปูดพและ สะพานสีฟ้า Optional tour! ล่องเรือแม่น้าซอง ชมบรรยากาศและความสวยงามของวังเวียง ขอพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระธาตุหลวง วัดศรีเมือง เช็คอิน ‘’ประตูไชย’’

เวียงจันทน์ : ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ พระธาตุหลวง เช็คอินแลนด์มาร์คของลาว ‘’ประตูไช’’ - หลวงพระบาง : เมืองมรดกโลก น้ำตกตาดกวางสี พระราชวังหลวงพระบาง วัดวิชุลราช พระธาตุพูสี - ตักบาตรข้าวเหนียวที่หลวงพระบาง วัดเชียงทอง Joma CAFÉ คาเฟ่สวนพูนสุข ช้อปปิ้งตลาดมืด - Optional Tour! ล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นอันน่าหลงใหล